หนีไปพักใจในโลกใบใหม่ขนาดย่อมของ Taweechob

“You can go to another world.” คุณก็ไปได้นะ ต่างโลกน่ะ!

ประโยคนี้แล่นเข้ามาในหัวของเราทันทีหลังจากได้พูดคุยกับเฮ้าส์ – ทวีชอบ ปิ่นทอง ศิลปินนักวาดภาพประกอบหน้าใหม่ไฟแรง ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นปี 3 คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาวิชาเรขศิลป์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพราะความตั้งใจในการทำงานของเขา คือการสร้างโลกอีกใบหนึ่งขึ้นมา ให้ทุกคนสามารถหนีจากชีวิตจริงที่วุ่นวายและเข้าไปใช้ชีวิตใหม่ที่นั่นได้

สำหรับวิธีการเดินทางไปยังต่างโลกสไตล์ Taweechob นั้นก็ง่ายมาก เพียงแค่ใช้ ‘จินตนาการ’ ก็สามารถเข้าไปได้แล้ว

“ผมมองว่าภาพของผมเป็นเหมือนการสร้างโลกใบใหม่ขึ้นมา ให้ผู้คนสามารถหลีกหนีความโหดร้ายและความวุ่นวายต่าง ๆ ในโลกปัจจุบันมาพักผ่อนในโลกอีกใบหนึ่งที่ผมสร้างขึ้นมาได้ เพียงจินตนาการให้ตัวเองเข้ามาอยู่ในโลกใบนั้น โดยผมตั้งใจใส่รายละเอียดต่าง ๆ ลงไปในภาพ เพื่อดึงดูดสายตาจนคนต้องหยุดมอง และขยับเข้ามาใกล้ ๆ และใช้เวลาดูมันให้นานมากขึ้นครับ”

ด้วยเหตุนี้เราจึงสนุกกับการลองซูมสำรวจเข้าไปทีละจุดของภาพ ที่ซึ่งเราสามารถมองเห็นเรื่องราวสนุก ๆ และน่าสนใจที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความละเอียดเหล่านั้น เช่น ภาพฉากอาคารหลังโต เมื่อเราซูมเข้าไปทีละจุด ก็จะพบกับสิ่งปลูกสร้างอีกหลากหลายสไตล์ที่ซ้อนอยู่ภายใต้อาคารหลังใหญ่นั้น รวมถึงมีภาพของมนุษย์ตัวจิ๋วกำลังทำกิจกรรมต่าง ๆ อยู่ด้วย

Tiny Little Human

หรืออีกผลงานหนึ่งที่ศิลปินชื่นชอบมากเป็นพิเศษ อย่างภาพ ‘Tiny little human’ ภาพคนตัวเล็ก ๆ หลายคนกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ โดยมุมมองแรกที่เราเห็นจากภาพนี้ คล้ายกับเรากำลังสวมบทบาทเป็นคนตัวโตที่กำลังก้มลงมองกลุ่มก้อนอะไรบางอย่าง แต่พอเราซูมเข้าไปใกล้ ๆ ก็จะพบว่าคนตัวจิ๊วเหล่านี้ไม่ได้กำลังนั่งหรือยืนอยู่เฉย ๆ แต่กำลังทำกิจกรรมอะไรสนุก ๆ อยู่ต่างหาก ซึ่งศิลปินก็อธิบายคอนเซปต์ของภาพนี้ให้เราฟังว่า

“คอนเซปต์ของภาพนี้ เริ่มต้นมาจากความตั้งใจอยากจะวาดรูปคนให้ออกมาเป็นรูปร่างหัวใจ แบบที่เป็นหัวใจในร่างกายของมนุษย์จริง ๆ และถ้าลองสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าทุกสิ่งมีชีวิตในภาพนี้ กำลังใช้ชีวิตในแบบฉบับของตัวเอง พวกเขาเลือกทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ผมเชื่อว่าทุก ๆ คนต้องใช้ความรักในการมีชีวิต ไม่ว่าคุณจะตกหลุมรักใครสักคน หรือรักในสิ่งที่คุณทำ เราถึงจะสามารถมีชีวิตอยู่บนโลกได้ เพราะถ้าเราปราศจากความรัก เราก็ไม่ต่างจากก้อนหินที่ข้างในว่างเปล่าและไร้หัวใจ”

Credit : บงกชกร คำปุ๊ก

 

เมื่อเห็นแบบนี้แล้วเราเลยอยากชวนศิลปินคุยต่อว่า ในมุมมองของศิลปิน นอกเหนือจากเรื่องการสร้างโลกใหม่ให้คนหลบไปพักใจ ยังมีเอกลักษณ์อะไรอีกไหมที่คิดว่าโดดเด่นขึ้นมาเป็นพิเศษ ซึ่งศิลปินก็บอกกับเราว่า “ผมคิดว่าเอกลักษณ์และธีมหลัก ๆ ในงานของผม คือเรื่องของการค้นหา รวมถึงทดลองสะท้อนอะไรบางอย่างออกมาจากภาพ เพื่อให้ผู้ชมลองตีความกันได้ตามสะดวก หลังจากดูแล้วคุณจะชมหรือจะด่าก็ได้หมดเลยครับ อีกอย่างหนึ่งคือผมสร้างงานขึ้นมาเพื่อให้นำไปใช้ในงานเชิงพานิชย์ได้ด้วย”

ศิลปินยังปิดท้ายบทสนทนาด้วยการแชร์วิธีฝึกฝนตัวเอง จนสามารถสร้างสไตล์ของตัวเองขึ้นมาให้ชัดเจนมากขึ้นได้ให้เราฟังด้วยว่า “ทุกอย่างเริ่มต้นมาจากการลงมือทำไปเรื่อย ๆ ก่อน จากนั้นพวกสไตล์ต่าง ๆ ก็โผล่ขึ้นมาเอง เหมือนตอนเรานับเลขจาก 0 ไป 10 จาก 10 ไป 100 หรือไปเรื่อย ๆ จนถึงแสนถึงล้าน ผมมองว่าแรงบันดาลใจและเป็นแรงขับเคลื่อนที่ดี เพราะถ้าไม่เริ่มทำเริ่มฝึก หรือเริ่มนับตัวเลขในแบบของเรา เราก็คงจะยังอยู่กับที่ต่อไปครับ และสิ่งที่เรียกว่าสไตล์ก็คงจะไม่เกิดขึ้น

“ผมทำแบบนี้มาตลอดจนปัจจุบันผมสามารถสร้างงานได้มากกว่า 3,000 ชิ้นแล้ว คงจะเป็นเพราะเหตุนี้สไตล์ของผมเลยชัดเจนมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน ผมคิดว่าถ้าคนอื่น ๆ อยากค้นหาตัวเองให้เจอ แต่ไม่รู้จะทำยังไง อาจจะเริ่มจากการทำไปเรื่อย ๆ เหมือนผมก่อนก็ได้ ไม่ต้องกดดันอะไรแค่ทำมันออกมาให้มากเข้าไว้ก็พอ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถเลือกได้ว่าจะทำหรือไม่ทำครับ”

Credit : บงกชกร คำปุ๊ก

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *